ทำลายจินตนาการเด็ก กับ ทฤษฎีซานต้าคลอส

เขียนโดย pichet | | Posted On วันพุธที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2552 at 07:08



ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสวิจัย(แบบแปลก)ฉบับหนึ่ง ตีแผ่ความจริงเชิงฟิสิกส์ของซานต้าคลอสเอาไว้ว่า
1) ไม่มีใครรู้จักกวางเรนเดียร์พันธุ์ไหนที่บินได้ มีสิ่งมีชีวิต 3 แสนชนิดที่เราจัดประเภทไว้ ส่วนมากเป็นแมลงและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจำพวกพวกเชื้อโรค แต่ในนั้นก็ไม่ได้บัญญัติไว้ชัดเจนนี่ว่า กวางเรนเดียร์ที่มีอยู่น่ะ บินไม่ได้ และซานต้าเท่านั้นแหล่ะที่เคยเห็นมันบิน (สมมุติฐานนี้กล่าวว่า กวางเรนเดียร์บินได้มีอยู่จริง การที่เราไม่เคยเห็นกวางเรนเดียร์บิน เพราะมันอาจจะขี้เกียจบินให้เราเห็นก็ได้ การที่เราเห็นกวางเราเดียร์เดินบนดิน ไม่ได้หมายความว่า มันบินไม่ได้สักหน่อย 555) 2) ในโลกมีเด็กอายุต่ำกว่า 18 ประมาณ 2 พันล้านคน แต่ซานต้าไม่ต้องให้ของขวัญเด็กที่เกิดในศาสนาอิสลาม ฮินดู ยิว พุทธ ดังนั้น จึงมีเด็กที่ไม่ต้องให้ของขวัญ 378 ล้านคน (15%) และจากการประมาณ ครอบครัวหนึ่งมีบุตรเฉลี่ย 3.5 คน ซึ่งคิดเป็นจำนวนบ้านที่ซานต้าต้องไปส่งของขวัญ จำนวน 91.8 ล้านหลัง คาดไว้ว่าหนึ่งครอบครัวต้องมีเด็กดีสักคนอย่างน้อย (ซานต้าเอาของขวัญไปให้เฉพาะเด็กดี -- เวปนี้ไง ฮา)
3) ซานต้ามีเวลาในการส่งของขวัญ 31 ชม เนื่องจากช่วงต่างของเวลาและการหมุนของโลก สมมุติให้ซานต้าเดินทางส่งของขวัญจากด้านทิศตะวันออกไปตะวันตก ดังนั้นซานต้าต้องแวะส่งของขวัญด้วยอัตรา 822.6 ครั้งต่อวินาที (ของขวัญจะนอนสงบใต้ต้นคริสต์มาส และถุงเท้า เฉพาะคืนคริสต์มาสอีฟ)บนสมมติฐานว่าแต่ละหลังมีเด็กดี 1 คน ซานตาต้องใช้เวลาภายใน 0.01 วินาทีในการทำเรื่องต่อไปนี้ - ลงจอดบนหลังคา - ลงจากรถเลื่อน - กระโดดลงปล่องไฟ - ใส่ของขวัญในถุงเท้า - วางของขวัญไว้ใต้ต้นคริสมาส์ต - ทานของกินเล่น - ปีนขึ้นปล่องไฟ - ขึ้นไปนั่งบนรถเลื่อน และไปบ้านหลังถัดไป หากสมมติว่ามีบ้าน 91.8 ล้านหลังที่ต้องส่งของขวัญทั่วโลก (ตัวเลขใช้ในการสมมติเท่านั้น) หากระยะทางจากบ้านแต่ละหลัง ห่างกัน 0.78 ไมล์ ซานตาจะใช้ระยะทางทั้งหมด 75.5 ล้านไมล์ ไม่นับการหยุดเพื่อทำธุระส่วนตัวภายในช่วงเวลา 31 ชั่วโมง เช่น ทานอาหาร, อื่นๆ ดังนั้นรถเลื่อนจะต้องมีความเร็ว 650 ไมล์ต่อวินาที (3000 มัค) หากจะเปรียบเทียบแล้ว พาหนะที่เร็วที่สุดที่มนุษย์สร้างขึ้นคือ the Ulysses space probe เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 27.4 ไมล์ต่อวินาที และกวางเรนเดียร์ทั่วไปมีความเร็วสูงสุด 15 ไมล์ต่อชั่วโมง
4) น้ำหนักของเลื่อนก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ สมมติให้เด็กแต่ละคนได้ของขวัญเป็นตัวต่อเลโก(กล่องขนาดกลาง 2 ปอนด์) เลื่อนจะต้องบรรทุกสิ่งของรวม 321,300 ตัน ไม่รวมซานต้าที่อ้วนเกินพอดี เรนเดียร์ทั่วๆ ไปสามารถลากสิ่งของที่หนักไม่เกิน 300 ปอนด์ แม้ว่าเรนเดียร์ที่บินได้ (ในข้อ 1) จะสามารถลากสิ่งของได้ 10 เท่าของปกติก็ตาม เรายังต้องการเรนเดียร์ถึง 214,200 ตัว และนี่ก็จะทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน ยังไม่ได้พูดถึงน้ำหนักเลื่อนอีก 353,430 ตัน น้ำหนักนี้หนักเป็น 4 เท่าของเรือเดินสมุทธ Queen Elizabeth.
5) พิจารณาที่มวล 353,000 ตัน วิ่งด้วยความเร็ว 650 ไมล์ต่อวินาที จะสร้างแรงต้านอากาศสูงมหาศาล จะทำให้เกิดความร้อนที่ตัวเรนเดียร์ในระดับเดียวกับยานอวกาศในขณะกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ กวางเรนเดียร์คู่หน้าจะต้องทนรับพลังงาน 14.3 QUINTILLION (14.3 x 10^18) จูลส์ต่อวินาที ในระยะสั้นพวกมันจะระเหิดเป็นไอทันที และเกิดลูกโซ่ต่อเรนเดียร์ตัวที่อยู่ข้างหลัง และทำให้เกิดโซนิคบูม เรนเดียร์ทั้งหมดจะระเหิดไปภายในเวลา 0.00426 วินาที ในขณะที่ซานต้าจะถูกแรงกระทำ 17,500.06 เท่าของแรง G ซานต้าที่น้ำหนักตัว 250 ปอนด์ (ค่อนข้างผอม)จะถูกผลักจนล้มไปบนเลื่อนด้วยน้ำหนัก 4,315,015 ปอนด์
สรุป ถ้าซานตาเคยส่งของขวัญให้เด็กๆในคริสต์มาสปีก่อน ตอนนี้เขาตายแล้ว

ชีวิตพอเพียงของมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก Warren Buffet

เขียนโดย pichet | | Posted On at 07:02


ชีวิตพอเพียงของมหาเศรษฐีอันดับสองของโลก Warren Buffet วอร์เรน บัพเฟตต์
แปลโดย Wilai Trakulsin
มีรายการสัมภาษณ์หนึ่งชั่วโมงของสถานีโทรทัศน์ CNBC สัมภาษณ์ วอร์เรน บัพเฟตต์ มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก ( รองจากบิล เกตส์) ซึ่งบริจาคเงินให้การกุศล 31,000 ล้านดอลล่าร์ต่อไปนี้คือแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจยิ่งจากชีวิตของเขา:
1. เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ และปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป!
2. เขาซื้อไร่เล็กๆ เมื่ออายุ 14 โดยใช้เงินเก็บจากการส่งหนังสือพิมพ์ 3. เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด
3 ห้องนอน กลางเมืองโอมาฮา ที่ซื้อไว้หลังแต่งงานเมื่อ 50 ปีก่อน เขาบอกว่ามีทุกสิ่งที่ต้องการในบ้านหลังนี้ บ้านเขาไม่มีรั้วหรือกำแพงล้อม
4. เขาขับรถไปไหนมาไหนต้วยตนเอง ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน
5. เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องบินส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก 6. บริษัท เบิร์กไช แฮทะเวย์ ของเขามีบริษัทในเครือ 63 บริษัท เขาเขียนจดหมายถึงซีอีโอของบริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว เพื่อให้เป้าหมายประจำปี เขาไม่เคยนัดประชุมหรือโทรคุยกับซีอีโอเหล่านี้เป็นประจำ
7. เขาให้กฎแก่ ซีอีโอ เพียงสองข้อ กฎข้อ 1 อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย กฎข้อ 2 อย่าลืมกฎข้อ 1
8. เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ การพักผ่อนเมื่อกลับบ้าน คือทำข้าวโพดคั่วกินและดูโทรทัศน์
9. บิล เกตส์ คนที่รวยที่สุดในโลก เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน บิล เกตส์คิดว่าตนเองไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน บัพเฟตต์เลย จึงให้เวลานัดไว้เพียงครึ่งชั่วโมง แต่เมื่อบิล เกดส์ได้พบบัฟเฟตต์จริงๆ ปรากฏว่าคุยกันนานถึงสิบชั่วโมง และบิล เกตส์กลายเป็นผู้มีศรัทธาในตัววอร์เรน บัพเฟตต์
10. วอร์เรน บัพเฟตต์ ไม่ใช้มือถือ และไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน
11. เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า: จงหลีกห่างจากบัตรเครดิตและลงทุนในตัวคุณเองที่สุดของชีวิต คือ มีปัจจัย ๔ อย่างเพียงพอนั่นเอง ๑. มหาเศรษฐีหรือยาจก กินข้าวแล้วก็อิ่ม 1 มื้อ เท่ากัน ๒. มหาเศรษฐีหรือยาจก มีเสื้อผ้ากี่ชุด ก็ใส่ได้ทีละชุด เท่ากัน ๓. มหาเศรษฐีหรือยาจก มีบ้านหลังใหญ่แค่ไหน พื้นที่ที่ใช้จริงๆ ก็เหมือนกันคือ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องครัว เหมือนกัน ๔. มหาเศรษฐีหรือยาจก จะมียารักษาโรคดีแค่ไหน ยื้อชีวิตไปได้นานเพียงไร สุดท้ายก็ต้องตายเหมือนกัน มองทะลุวัตถุนิยม และเห็นความหมายที่แท้จริงของชีวิต

18ข้อคิด เพื่อชีวิตคนทำงาน

เขียนโดย pichet | | Posted On at 07:00

1.จงพิจารณาความเป็นไปได้ที่ว่าการชอบทำงานเกินเวลาจนเป็นนิสัยของคุณนั้นแสดงถึงว่าคุณต้องการสำนักงานมากกว่าที่สำนักงานต้องการคุณ
2. อย่าทำงานเกินเวลาจนติดเป็นนิสัยเมื่อมันกลายเป็นนิสัยจะทำให้มันหมดคุณค่า
3. ปล่อยตัวตามสบายได้ แต่อย่าให้ถึงกับดูโทรมนัก
4. จงทำตัวให้ร่าเริง คอยช่วยเหลือและทำหน้าที่ให้ดีในการทำงานของคุณคุณจะพบว่าไม่มีใครมาแข่งขันกับคุณ
5. อย่าได้ไว้เนื้อเชื่อใจว่าความสามารถ ความมีเสน่ห์และจินตนาการจะนำพาคุณขึ้นสู่ตำแหน่งสูงสุดได้คุณควรจะมีผมสีเทาและพุงป่องกลางอีกหน่อยด้วย
6.อย่าได้เป็นกังวลในเรื่องการปล่อยเวลาให้เปล่าประโยชน์ในสำนักงานแต่เป็นกังวลกับการปล่อยให้ชีวิตของคุณ เปล่าประโยชน์จะดีกว่า
7. อย่าโทษคอมพิวเตอร์สำหรับความผิดพลาดที่คุณทำขึ้นเอง
8. ลองคิดถึงเวลาที่คุณไม่มีเงินเดือนดูบ้าง
9. จงถือว่าสุขภาพคือทรัพย์สมบัติประการแรก
10. อย่าได้ก้มหน้าก้มตาทำงานจนไม่เคยสังเกตเห็นนก ต้นไม้ ดอกไม้และปุยเมฆ
11. ในเวลาอาหารกลางวัน จงเลือกรับประทานอย่างฉลาดแต่ในบางครั้งจงรับประทานให้เต็มที่
12.เมื่อใดที่สำนักงานทำให้คุณรู้สึกเศร้าสร้อยจงนึกเสียว่านี่เป็นเกมกีฬาสำหรับคนที่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่และอย่าได้นำมันกลับไปบ้านด้วย
13. จำไว้ว่ายังมีอะไรๆอีกมากในการทำงานและในชีวิตมากกว่าทำงานเพื่อให้มีชีวิตอยู่หรือมีชีวิตอยู่เพื่อจะทำงาน
14. อย่าทำเป็นคนตรงต่อเวลา ไปถึงก่อนเวลาจะดีกว่า
15.อย่าได้หลอกตัวเองว่าการมีสิ่งของรกอยู่บนโต๊ะหมายถึงการมีงานมากมันเพียงแต่หมายความว่าคุณยังไม่ได้ทำมันนั่นเอง
16.จัดเก็บโต็ะของคุณให้เรียบร้อยบุคคลส่วนใหญ่ที่ประสบความสำเร็จจะมีโต๊ะทำงานที่ว่างโล่ง
17.อย่าเป็นกังวลมากจนเกินไปว่าเพื่อนร่วมงานคิดอย่างไรกับคุณเพราะส่วนใหญ่ในชีวิตของพวกเขาไม่ได้คิดถึงคุณเลย
18. จงร่ำรวยเงินสด

ชอบกันไหม

เขียนโดย pichet | | Posted On at 06:56

เพราะดีนะครับ

ทายนิสัยจากชุดนอน

เขียนโดย pichet | | Posted On at 06:51

ทายนิสัยจากชุดนอน ชุดนอนหนาๆ คุณเป็นคนมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ คบหรือเข้ากับคนอื่นได้ง่าย คุณเป็นคนมีน้ำใจ เมื่อใครเดือดร้อน ขอให้บอกคุณเถอะ คุณไม่มีวันปฎิเสธ คุณเป็นคนไม่ถือตัว คุณสามารถสร้างเสน่ห์แก่ผู้พบเห็นให้เขาประทับใจในตัวคุณ ชุดนอนบางๆ คุณเป็นคนค่อนข้างพิถีพิถัน เป้นคนเจ้าระเบียบ คุณให้ความสำคัญกับทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความรัก คุณจะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ คุณเป็นคนชอบสร้างความแปลกใหม่อยู่เสมอ สวมเสื้อยืด คนที่ชอบสวมเสื้อยืดนอน บ่งบอกถึงความเป็นมิตรที่ดี เข้ากับคนได้ง่าย คุณเป็นคนร่าเริง ชอบช่วยเหลือ มองโลกในแง่ดี คุณสามารถเข้ากับคนได้ทุกวัย ชอบทำตัวเป็นที่รักของคนอื่น ไม่สวมเสื้อ เอาใจตัวเองมากไปหน่อย คุณจะมีความคิดที่สั้นกว่าคนอื่น ขาดความกระตือรือร้นในบางครั้ง แต่เมื่อคุณจะทำอะไรขึ้นมา คุณกลับแสดงออกที่จะทำหรือรับผิดชอบอย่างไม่น่าเชื่อ คุณเป็นคนที่เข้าใจยากพอสมควร ใส่ชุดชั้นใน ออกจะเป็นคนช่างฝันไปหน่อย มักแสดงความอ่อนแอออกมาเมื่อพบคนที่เข้มแข็งกว่า และเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง เรียกร้องความสนใจ หากใครขัดใจจะโวยวาย หรือทำท่าทีไม่พอใจขึ้นมาทันที

นักศึกษาเทียบโอนประสบการณ์

เขียนโดย pichet | | Posted On วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2552 at 23:50